322 Views
Favorite
ลูกน้อยมียางลบ ดินสอ สติ๊กเกอร์สวย ๆ ของเล่นชิ้นเล็ก ๆ อยู่ในกระเป๋าหนังสือเรียน ซึ่งเป็นสิ่งของแปลกปลอมที่เราไม่ได้ซื้อให้ เมื่อถามลูก ได้รับคำตอบว่าเพื่อนให้ เมื่อบ่อยครั้งเข้า เป็นเรื่องน่าสังเกตแล้วว่าเพื่อนให้สิ่งของเหล่านั้นจริงหรือเปล่า หรือตื่นเช้าขึ้นมา ลูกบอกว่าไม่สบาย ปวดหัวปวดท้อง อยากอ้วก เราต้องจับสัญญาณให้ได้ว่าลูกป่วยจริง หรือเป็นวิธีการที่ลูกคิดขึ้นมาเพราะไม่อยากไปโรงเรียน หรือลูกไม่ได้ทำการบ้านจนคุณครูต้องทวงถามจากเรา เมื่อได้หลักฐานแน่ชัดว่าลูกเริ่มรู้จักการโกหกแล้ว เราจะทำอย่างไรไม่ให้ลูกเป็นเด็กเลี้ยงแกะ
นิทานอีสปที่โด่งดังเรื่อง “เด็กเลี้ยงแกะ” เป็นบทเรียนสอนใจได้สำหรับลูกน้อย เราหาซื้อหนังสือนิทานภาพสวย ๆ เรื่องนี้มาให้ลูกอ่าน หรือเล่าให้ลูกฟังด้วยการทำเสียงจริงจังตามบทบาทของตัวละครในเรื่อง ซึ่งจะกระตุ้นความสนใจของลูก มีทั้งเสียงของเด็กชายที่เลี้ยงแกะ ส่งเสียงร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้นตกใจกลัวว่า มีหมาป่ามากินแกะของเขา พร้อมกับวิ่งเข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้ไล่หมาป่า เสียงของชาวบ้านที่ออกไปช่วยไล่สัตว์ร้าย แต่กลับพบว่าฝูงแกะกำลังกินหญ้าตามปรกติ เสียงเด็กชายหัวเราะสนุกสนานที่สามารถหลอกผู้ใหญ่ได้ เหตุการณ์เป็นดังนี้อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งมีหมาป่าออกมากินแกะของเขาจริง ๆ เสียงเขาร้องตะโกนด้วยความตกใจสุดขีด เรียกชาวบ้านให้ออกมาช่วย แต่ไม่มีใครเชื่อ และไม่ออกมาให้ความช่วยเหลืออีก หมาป่ากินแกะหมดฝูง เขาร้องไห้เสียใจอย่างหนัก และพร่ำโทษตัวเองที่ชอบพูดโกหก จนได้รับความเดือดร้อนเพราะไม่มีใครเชื่อถือและไม่ช่วยเหลืออีกแล้ว และเนื่องจากพ่อแม่ของเด็กชายก็ไม่รู้ว่าลูกชายเป็นเด็กโกหก จึงไม่สามารถป้องกันและให้ความช่วยเหลือได้ ทำให้เกิดความสูญเสียสัตว์เลี้ยงของครอบครัวไปจนหมดฝูง
เมื่อลูกโกหก และพ่อแม่ไม่รู้ความจริง จึงไม่สามารถช่วยลูกได้ หากเกิดอันตรายหรือความเดือดร้อนจากการโกหกของลูก เหมือนกับเด็กเลี้ยงแกะซึ่งหมายถึงเด็กที่ชอบโกหกคนนั้น ลูกเราแกล้งบอกไม่สบาย เพราะที่จริงคือไม่อยากไปโรงเรียน หากลูกหยุดเรียน ลูกจะเรียนไม่ทันเพื่อน หรือวันนั้นคุณครูมีกิจกรรมหรือเกมสนุก ๆ มาให้นักเรียนเล่น หรือพานักเรียนออกไปเรียนนอกห้องเรียน เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศการเรียน ลูกจะอดสนุกกับเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง หรือลูกหยิบของของเพื่อนมา เพื่อนจะโดนผู้ปกครองดุที่ทำของหาย นับเป็นเรื่องที่น่าเสียใจกับการที่ทำให้เพื่อนเดือดร้อน การพูดความจริงกับพ่อแม่เป็นเรื่องดี เพราะหากเป็นเรื่องไม่ดีที่ลูกทำลงไป พ่อแม่จะได้ตักเตือน แนะนำ สั่งสอนลูกไม่ให้โกหกและไม่ทำเรื่องไม่ดีนั้นอีก
ไม่มีใครชอบคนที่พูดโกหกเป็นประจำ และเมื่อวันหนึ่งที่เขาพูดความจริง จะไม่มีใครเชื่อถือ ไม่ไว้วางใจ และไม่ให้ความสนใจกับคำพูดของเขา เขาจะเป็นคนที่ไม่มีเพื่อน ไม่ได้รับความร่วมมือและช่วยเหลือ และไม่อยากร่วมทำงานด้วย เพราะเขาไม่ซื่อสัตย์ ไม่จริงใจ ฉะนั้นหากลูกอยากเป็นคนดี เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนฝูง ต้องเป็นคนพูดความจริง ไม่สร้างเรื่องโป้ปดมดเท็จหลอกแกล้งคนอื่น เพื่อความสนุกของตนเองเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ และเมื่อได้โกหกไปครั้งหนึ่งแล้ว อาจต้องโกหกไปเรื่อย ๆ อีกก็เป็นได้ ซึ่งจะทำให้เกิดความทุกข์ใจ และความไม่มั่นใจในตนเองตามมา เพราะต้องปกปิดความจริง
พูดคุยกับลูกด้วยความรักและการให้อภัยเมื่อรู้ว่าลูกพูดโกหก และให้คำแนะนำสั่งสอนเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผิด สร้างบรรยากาศที่จริงใจให้ลูกได้เปิดใจกับเรา ลูกจะได้ไม่กังวล รู้สึกปลอดภัย อบอุ่นใจ และยอมรับความผิดพลาดที่พร้อมแก้ไข เราต้องคอยสังเกตพฤติกรรมของลูก ว่าได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแล้วตามที่เคลียร์ใจกัน เมื่อลูกรู้ว่าความจริงคือสิ่งที่ต้องปฏิบัติตาม และลูกทำได้ เราต้องให้คำชมเชยในพฤติกรรมที่ดีของลูก ในครอบครัวของเราเอง ต้องมีความจริงใจ พูดกันตรงไปตรงมา ไม่ปิดบังความจริง เพื่อลูกจะได้ซึมซับเห็นตัวอย่างที่ดี และเราต้องให้โอกาสลูกเล่าความจริงในสถานการณ์ที่เหมาะสม ว่าสิ่งที่ลูกโกหก ทำไปเพราะความกลัวหรือความสนุกหรือเรียกร้องความสนใจ และเราเองต้องไม่เข้มงวดกับลูกจนลูกกลัว ไม่กล้าพูดความจริง จึงต้องโกหกเพื่อเอาตัวรอด อย่างเช่น การที่ลูกไม่ได้ทำการบ้าน หยิบของของเพื่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือทำข้าวของแตกหักเสียหาย ฯลฯ
สอนลูกเรื่องคุณธรรมของความซื่อสัตย์ ด้วยการร้องเพลงลูกเสือ “ความซื่อสัตย์” เนื้อเพลงสั้น ๆ ง่าย ๆ มีความหมาย ลูกจะได้จำแม่นจนขึ้นใจและปฏิบัติตามได้เมื่อเติบโตขึ้น ถือเป็นบทอาขยานของครอบครัวให้ลูกเรียนรู้ “ความซื่อสัตย์เป็นสมบัติของผู้ดี หากใครไม่มีชาตินี้เอาดีไม่ได้ มีความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอดถมไป คดโกงแล้วไซร้ ใครจะรับไว้ให้ร่วมงาน” หรือเปิดคลิปดี ๆ เรื่องของคนที่มีความซื่อสัตย์ให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง
การสอนลูกเรื่องความซื่อสัตย์และการพูดความจริง เป็นเรื่องของการปรับ Mindset เราจึงต้องใช้เวลาในการปลูกฝังคุณธรรมข้อนี้ให้หยั่งรากฝังลึกลงในจิตใจของลูก และต้องดูแลรับผิดชอบเรื่องการสร้างพื้นฐานคุณธรรมให้ลูก เพื่อช่วยให้ลูกเติบโตอย่างมีคุณภาพ และเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันหน้า ในขณะเดียวกัน เราต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันนี้ เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีให้ลูกดำเนินรอยตาม
ณัณท์
